ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ตำนานที่ยังไม่ยอมแพ้ต่อสังขาร
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ตำนานที่ยังไม่ยอมแพ้ต่อสังขาร :: เขาเกิดเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 1981 และเติบโตในย่านใกล้กับเมือง มัลโม่ นั่นคือ โรเซนการ์ด เขาเริ่มต้นด้วยการเป็นผู้เล่นเยาวชนของ เอฟบีเค บัลคาน และได้มาเซ็นสัญญาอาชีพครั้งแรกกับ มัลโม่ ทีมดังแถวบ้านเกิด ในปี 1999-2000 นั้นเอง

หลังจากนั้นไม่นาน ซลาตัน เริ่มเป็นที่ต้องการของทีมยักษ์ใหญ่บ้างแล้ว แต่ทว่าเขารีบด่วนตัดสินใจ ย้ายไปอยู่ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สโมสรในดังในพรีเมียร์ดัตช์ เสียก่อนแล้ว ด้วยราคา 7.8 ล้านยูโร (ราว 320 ล้านบาท) ในช่วงเดือน ก.ค. ปี 2001 ทั้งๆที่ตอนนั้น อาร์เซน่อล ของ อาร์เซน เวนเกอร์ กำลังให้ความสนใจอยู่แล้วแท้ๆ
ที่อาแจ็กซ์ ภายหลังเปลี่ยนผู้จัดการมาเป็น โรนัล คูมันท์ ซลาตันโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด กลายเป็นกองหน้าเบอร์ 1 การันตีตำแหน่งตัวจริงอย่างถาวรเลยทีเดียว

ต่อมาในวันที่ 31 ส.ค. 2004 อาแจ็กซ์ไม่สามารถปฏิเสธค่าตัว 16 ล้านยูโร (ราว 640 ล้านบาท) ที่ยูเวนตุสได้เสนอให้ได้ ทำให้ซลาตันกลายเป็นนักเตะของ ยูเว่ ในทันที พร้อมประกาศศักดาทำไปได้ 16 ประตู จากการย้ายมาในครึ่งซีซั่นหลัง และผนึกกำลังเข้ากับนักเตะที่มีอยู่ อย่าง อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ หรือ ดาวิด เทรเซเกต์ ได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ยูเวนตุส คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา มาครองได้ ในฤดูกาล 2004/05 และเขาก็ได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีจากการโหวตของแฟนๆ ชาวเบียงโคเนรี่ รวมถึงรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสวีเดนในปีเดือน พ.ย. 2005
ความร้อนแรงของเขาไปเตะตา เรอัล มาดริด ทีมดังจาก ลาลีก้า สเปน เข้าอย่างจังจนยอมเสนอเงินจำนวน 70 ล้านยูโร (ราว 2,800 ล้านบาท) แลกกับตัวของ ซลาตัน แต่ ยูเว่ปฏิเสธทันควัน ซลาตันยังคงปักหลักทำผลงานกับยูเว่ต่อไป และได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2004/05 จากแฟนบอล ยูเวนตุส พร้อมรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสวีเดน (กัลด์โบเลน) ไปครองเป็นปีที่ 2 อีกด้วย

ต่อมาในปี 2006 เรื่องที่ไม่มีใครคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ ยูเวนตุส ถูกปรับตกชั้นจากข้อหาล้มบอล ทำให้ต้องลงไปเล่น เซเรีย บี เล่นเอาเหล่าสตาร์ดัง ย้ายหนีกันให้วุ่น และก็เป็น งูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน สบช่องและคว้าตัว ซลาตันไปร่วมทีมในทันที
ผลงานของเขายิ่งทำให้แฟนๆยูเว่ เสียดายมากๆ เพราะตลอด สามฤดูกาลที่ ซลาตัน อยู่กับอินเตอร์ เขาลงเล่นทั้งหมด 117 นัด ทำได้ 66 ประตู และที่สำคัญคือ ปี 2008/09 คว้าตำแหน่งดาวซัลโวไปครอง ด้วยผลงาน 25 ประตูในลีค

ฤดูกาล 2009/2010 บาร์เซโลน่า แสดงเจตจำนงในการคว้าตัว ซลาตัน อย่างมาก ถึงขนาดตอบรับข้อตกลงที่ว่า ต้อง ส่ง ซามูเอล เอโต้ พร้อมเงินจำนวนหนึ่ง มาถึงจะได้ตัวซลาตันไปครอง บาร์เซโลน่าตอบตกลง และ ได้เขามาร่วมทีมสมใจ เมื่อวันที่ 28 กรกฏาคม 2009 ก่อนจะยิงให้กับ “เจ้าบุญทุ่ม” ไปทั้งหมด 16 ประตู ช่วยให้ต้นสังกัด คว้าแชมป์ลา ลีก้า ไปครองได้สำเร็จ

แม้จะทำประตูได้เรื่อยๆ และ ประสบความสำเร็จอยู่เสมอที่สเปน แต่ชีวิตของเขาก็ไม่ได้สวยหรูนัก เมื่อภายหลังเขาได้ออกมาเผยว่าตัวเขาและ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือของทีม ไม่ได้มีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอย่างที่ควรจะเป็น จนเป็นเหตุให้ ซลาตัน ถูกส่งไปให้ เอซี มิลาน ยืมตัวเป็นเวลา 1 ฤดูกาล พ่วงออพชั่นซื้อขาดในราคา 24 ล้านยูโร (ราว 960 ล้านบาท) ในตอนจบฤดูกาล
ซลาตันทำผลงานได้ดีเสมอไม่ว่าอยู่ที่ไหน จนสุดท้ายก็สามารถพา “ปีศาจแดง-ดำ” คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ได้สำเร็จ และ เอซี มิลาน ก็จัดการคว้าตัวเขามาครอบครองอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 18 มิถุนายน 2011
ในฤดูกาล 2011-12 ซลาตัน ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับ “ปีศาจแดง-ดำ” โดยเขายิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ เฉพาะในเซเรีย อา ซัดไปถึง 25 ประตู ทำให้จบฤดูกาลด้วยสถิติลงเล่น 32 นัด ยิง 28 ประตู เลยทีเดียว
:no_upscale()/cdn.vox-cdn.com/uploads/chorus_asset/file/19484773/120444147.jpg.jpg)
ต่อมาก็เกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิตการค้าแข้งของ ซลาตัน อีกครั้ง เมื่อเขาตัดสินใจย้ายทีมมาอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่ของ ลีก เอิง ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2012 ด้วยสัญญา 3 ปี และรับค่าเหนื่อยจำนวนมหาศาลถึง 14 ล้านยูโร (ราว 560 ล้านบาท) เป็นรองแค่เพียง ซามูเอล เอโต้ เท่านั้น ที่ได้ค่าเหนื่อยมากกว่าเขาในตอนนั้นและเขาก็ไม่ทำให้สโมสรผิดหวังโดยยิงประตูใน ลีก เอิง ไปทั้งสิ้น 30 ประตู ทำให้จบฤดูกาล 2012-13 ด้วยรางวัลดาวซัลโวของลีก
ซลาตันใช้เวลาอยู่กับ เปแอสเช ช่วงปี 2012-2016 พาทีมคว้าแชมป์ต่อเนื่องและทำลายสถิติต่างๆมากมายในทั้งในทีมตัวเอง และ ของ ลีกเอิง อีกทั้งก่อนจะอำลาทีมไป ก็ ยังพาต้นสังกัดซิว 2 แชมป์นั่นก็คือ แชมป์ลีก เอิง และ เฟรนช์ ลีก คัพ ฉลองแชมป์แบบยิ่งใหญ่ ปิดฉากแบบสวยงามเลยทีเดียว

ย้ายมาร่วมงานกับมูรินโญ่ที่ลีคสุดหิน พร้อมด้วยคำปรามาสต่างๆนานๆ
ซลาตันในช่วงนั้นถูกมองว่าขาลง และ โดนดูถูกอย่างหนักกับการเลือกมาเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ โจเซ่ มูรินโญ่เจ้านายเก่าคุมอยู่ ก่อนตอกคำวิจาร์ณเหล่านั้นเสียกระจุย ด้วยการ ซัดไปทั้งหมด 28ประตูในปีแรก พาทีมคว้าแชมป์ คอมมูนิตี้ ชิลด์, ลีค คัพ และ ยูโรป้า คัพ มาครองอย่างยิ่งใหญ่ แต่ซลาตันเองกลับได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจนต้องพักยาว และ ใครหลายคนก็คงมองว่าเขากลับมาเล่นในระดับสูงสุดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ถ้าพิจารณาจากอาการบาดเจ็บ และ อายุของเขา
เขาย้ายไปอยู่กับ แอล เอ กาแลคซี่ ทีมดังของลีค MLS ในวัยนั้นเขายังทำประตูได้เป็นกอบเป็นกับ นับเฉพาะในลีค สองปี เขาทำได้ถึง 53 ประตู เลยทีเดียว จากการลงเล่น 58 นัด
หลายคนคงคิดว่าเขาคงปักหลักอยู่กับ แอล เอ ยาวไปเลย หากพิจารณาถึงอายุของเขาแล้ว แต่ทว่ากลับยังเรียกร้องหาความท้าทายใหม่ๆ เขาตอกกลับเสียงวิจารณ์ต่างๆนาๆที่มีต่อตัวเขา แล้วย้ายกลับไปเล่นให้ เอซี มิลาน อดีตต้นสังกัดเก่านั้นเอง
เขายังคงลงเล่นอย่างต่อเนื่อง และทำประตูอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ ตอกกลับเสียงวิจารณ์ต่างๆที่มองว่าเขาเล่นในลีกสูงสุดไม่ได้อีกแล้วเสียพังยับเยิน อีกทั้งตอนนี้ เขาในวัย 40ปี ยังพา เอซี มิลาน รั้งตำแหน่งจ่าฝูงในขณะนี้อีกด้วย

ขอบคุณภาพสวยๆจาก :: Google
อ่านคอลัมน์เพิ่มเติม :: ดูบอลรวย