รอย คีน ตำนานกัปตันผู้ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร
รอย คีน ตำนานกัปตันผู้ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร :: เกิดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ปี1971 ณ เมืองคอร์ก ประเทส ไอร์แลนด์ ครอบครัวของเขา ชื่นชอบ และคลั่งไคล้ในกีฬาฟุตบอลอย่างมาก อีกทั้ง คีน ยังชอบกีฬามวย แถมเขายังเคยขึ้นชกด้วยในตอนเด็ก
รอย คีน ไม่ได้เริ่มต้นจากการเข้าทีมเยาวชน เหมือนนักเตะต่างๆทั่วไป เขาเริ่มเข้าสุ่วงการจริงจังตอนอายุ 18ปี กับทีม โครัมเบลอส์ แถวบ้านเกิด และก็เป็น น็อตติ้ง แฮม ฟอเรส รับมาเลี้ยงดูต่อโดนจ่ายค่าตัวให้ทีมเจ้าป่าไป 10,000 ปอนด์ ตอนปี 1990

รอย ปรับตัวค่อนข้างง่าย แม้ต้องจากบ้านมาไกล เขาไม่ได้สนใจเรื่องนอกสนามมากนัก ตั้งหน้าตั้งตาซ้อมอย่างหนักทุกวัน ไม่ย่อท้อ แต่ก็ยังไม่ได้รับโอกาสลงเล่นในชุดใหญ่สักที
เวลาผ่านมาจนถึงปี 1991 กลายเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ยอมทุ่มเงิน 3.75 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวนักเตะหนุ่มต่างแดนที่ยังไม่ได้รับโอกาสพิสูจน์อะไรมากมายกับทีมเก่า แถมตอนนั้นจำนวนเงินที่ทีมปีศาจแดงจ่าย ทำให้เขาเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในเกาะอังกฤษเวลานั้นด้วย

ว่ากันว่าสาเหตุหลัก นอกเหนือจากเรื่องเงินที่ทำให้เขาเลือกมาเล่นกับ ปีศาจแดง ก็คือ การได้ลงเล่นกับ ไบรอัน ร็อบสัน ไอดอลของเขานั้นเอง ทำให้เจ้าตัวแฮปปี้สุดๆพร้อมทำคนเดียวสองประตู ในเกมเจอ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ส่งผลให้ทีมเอาชนะไปได้ถึง 3-0 โดยถือเป็นการทำประตูได้ ตั้งแต่เกมแรกที่ลงสนามอย่างเป็นทางการเลยทีเดียว
แต่ทว่าการมาของ รอย คีน นั้น เขาถูกวางไว้ให้เป็นตัวตายตัวแทนที่มารับหน้าที่ต่อจากไอดอลของเขานั้นเอง เพราะ ร็อบสัน ร่วงโรยเต็มที่ รอย คีน ใช้เวลาตรงนี้เรียนรู้จาก ร็อบสันอย่างมากมาย และ ช่วยกันพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ชิพ มาครองตั้งแต่ปีแรกนั้นเลย โดยเขาทำไป 5 ประตู จากการลงสนาม 37 นัด

รอย คีน สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมถาวรทันที ต่อจากร็อบสัน ด้วยบุคลิค และ สไตล์การเล่น ที่ไม่ยอมใคร ถึงลูกถึงคน ฆ่าได้หยามไม่ได้ ส่งผลให้แดนกลาง ของยูไนเต็ด ตอนนั้นแทบจะเรียกได้ว่า เป็นฝันร้ายของคู่ต่อสู้จริงๆ แม้ เขาจะดุดันและเล่นหนัก ถึงลูกถึงคน แต่ทว่า เขายังเป็นคนคุมจังหวะและคอนโทรลเกมได้ดีอีกด้วย
แมนยูไนเต็ด เริ่มประกาศศักดาคว้าแชมป์ ไม่หยุดหย่อน โดยมี เอริค คันโตน่า เป็นตัวชูโรง ประกอบไปกับการขึ้นมาของ Class of 92 อย่าง ไรอัน กิ๊กส์,พอล สโคลส์, แกรี่ เนวิลล์, เดวิด เบ็คแฮม,ฟิล เนวิลล์ และ นิคกี้ บัตต์

งานเลี้ยงย่อมมีการเลิกลาจริงๆ จู่ๆคันโตน่าก็หมดไฟ และ ประกาศเลิกเล่นเสียดื้อๆ ปลอกแขนกัปตันทีม เลยตกมาอยู่ที่ รอย คีน ทันทีในปี 1996
เขาประสบอาการบาดเจ็บ อย่างหนักทันที หลังประเดิมเป็นกัปตันของทีม ได้ไม่นาน หลังจากการเข้าสะกัดของ อัลฟ์ อิงเก้ ฮาลันด์ ในเกมที่เจอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด แถมคู่กรณียังต่อว่าเขาด้วยคำว่า ‘ลุกขึ้นมา เลิกเล่นละครทำเป็นสำออยได้แล้ว’
อาการบาดเจ็บดังกล่าว ทำให้เขาต้องพักยาว ทั้งฤดูกาล ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สาเหตุหลักที่ยูไนเต็ดพลาดแชมป์ในปีนั้น ก็มาจากการหายไป ของกัปตันรอยนั้นเอง
คีน สลัดอาการบาดเจ็บหาย เป็นปลิดทิ้ง ก่อนทุ่มสุดตัวพาทีมคว้าทริปเปิ้ล แชมป์มาครองได้ในปี 1999 โดยในระหว่างนั้นไฮไลท์สำคัญคือ เกมพบกับยูเวนตุสในรอบรอง เขาได้รับใบเหลืองตั้งแต่ต้นเกม มันส่งผลให้เขาอดเล่นนัดชิงทันทีถ้าทีมผ่านเข้ารอบ หากเป็นคนอื่น อาจผิดหวังและช็อตไปดื้อๆ แต่ไม่ใช่กับเขา เขาทุ่มสุดตัว เล่นเต็มที่ ประหนึ่งว่ามันคือนัดสุดท้ายในชีวิตของเขา จนพาทีมผ่านเข้าไปอย่างสุดมันส์ ก่อนพลิกชนะ บาเยิร์น คว้าแชมป์ ไปครองอย่างยิ่งใหญ่

ในปี 2000 เกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ เขาได้จังหวะย่ำไปที่หัวเข่า เอาคืนคู่กรณีเก่าอย่าง อัลฟ์ อิงเก้ ฮาลันด์ ทำให้เขาโดนใบแดงและโดนแบนยาวถึง 5 เกม แถม คีนที่แค้นฝังหุ่นสุดๆยังไปตะโกนด่า ฮาลันด์อีก ก่อนเดินออกจากสนาม ด้วยคำว่า ‘ไงละ คราวหลังอย่ามาหาว่ากูสำออยอีก’

คีนสามารถทำประตู ให้กับทีมได้ถึง 12 ประตูในฤดูกาลนั้น ซึ่งครึ่งหนึ่ง เป็นประตูที่ได้ในฟุตบอลถ้วยยุโรป และ ด้วยเหตุนี้เองทำให้เขาได้รับเลือกให้เป็น “นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล” โดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หลังจากนั้นเขา ก็ยังพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก เป็นครั้งที่ 7 ของสโมสรในฤดูกาล 2000-2001

เขายังคง เล่นให้ยูไนเต็ดต่อไป และ เป็นกำลังสำคัญ ต่อมาจนถึงปี 2005 โดยตอนนั้น รอย คีน โดนกระแส ตอกกลับอย่างหนัก จากทั้งสื่อ และผู้เล่นด้วยกันเอง หลังเขาต่อว่า บรรดา นักเตะดาวรุ่งของทีมผ่านทางช่อง MUTV ส่งผลให้ เซอร์ อเล็กซ์ ฉุนขาด และ ปะทะฝีปากกับรอยอย่างหนัก
รอย คีน เลยจำต้องจากยูไนเต็ดไปอย่างไม่สวยงาม อย่างที่ควรเป็น โดยตลอดเวลา 12 ปี ที่อยู่กับปีศาจแดง เขาทำได้ 51 ประตู จากการลงเล่น 480 นัด คว้า แชมป์ต่างๆมากมาย เป็นตำนานของทีม อย่างปฏิเสธไม่ได้ อีกคนหนึ่ง

เขาย้ายไปอยู่กับ กลาสโกลว์ เซลติก ลงเล่นได้ไม่นาน ก็ประกาศแขวนสตั๊ด ยุติการค้าแข้งอย่างเป็น ทางการในปี 2006
ขอบคุณข้อมูลจาก :: extremesoccer89
ขอบคุณภาพสวยๆจาก :: Google
อ่านคอลัมน์เพิ่มเติม :: ดูบอลรวย