โรบิน ฟาน เพอซี่ ตำนานดาวยิงแห่งดินแดนกังหันลม
โรบิน ฟาน เพอซี่ ตำนานดาวยิงแห่งดินแดนกังหันลม :: ฟาน เพอร์ซี เกิดวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1983 ในครอบครัวของศิลปิน โดยแม่ของเขาเป็นจิตรกร ขณะที่ พ่อเป็นนักประติมากรรม โดยเขาได้เริ่มต้นเส้นทางสายลูกหนังกับทีมเยาวชนเอสบีวี เอ็กเซลซิเออร์ ขณะที่ อายุได้ 14 ปี
ต่อมา ฟาน เพอร์ซี ก็ได้ย้ายไปอยู่กับเฟเยนูร์ด ก่อนที่จะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด จนถูกเรียกขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่อย่างรวดเร็ว ด้วยอายุเพียง 17 ปี อีกทั้งยังโชว์ผลงานสุดแจ่ม กระทั่งคว้าตำแหน่งดาวรุ่งยอดเยี่ยมลีก ดัตช์ ประจำปี 2001-02 จากนั้นต้นสังกัดไม่รอช้า จับดาวเตะผอมบางเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพเป็นเวลาสามปีครึ่ง
ทว่าหัวหอกดาวรุ่งก็มีความขัดแย้งกับ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ กุนซือของทีมในขณะนั้น จนถูดลดชั้นไปเล่นในทีมสำรอง “พฤติกรรมที่รับไม่ได้ของเขา บังคับให้ผมต้องลดชั้น โรบิน ไปอยู่กับทีมสำรอง และไม่มีความเป็นไปได้ที่เขาจะกลับมาอยู่ในทีมชุดใหญ่อีกแล้ว ในระหว่างที่ผมเป็นนายใหญ่ของเฟเยนูร์ด” คำพูดของโค้ชเบิร์ตดังกล่าว จึงเป็นที่มาของการแตกหักในที่สุด
“โรบิน” ตกลงเซ็นสัญญา 4 ปีกับอาร์เซน่อล เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2004 ด้วยค่าตัวเพียง 2.75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 130 ล้านบาท) จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ราว 5 ล้านปอนด์ (250 ล้านบาท) ก่อนที่จะได้ประเดิมสนามด้วยการเป็นตัวสำรองในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ซึ่ง “ปืนใหญ่” คว้าชัยเหนือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 ในเดือนส.ค. ปีเดียวกัน
ในช่วงแรก ฟาน เพอร์ซี ต้องลงเล่นเป็นตัวสำรองเป็นส่วนใหญ่ แถมยังถูกโยกไปยืนปีกซ้ายซะเยอะ เพราะช่วงนั้น “เดอะ กันเนอร์ส” ใช้งาน เธียร์รี่ อองรี เป็นหน้าเป้า และยังมี โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส อีกตัว ทำให้เจ้าตัวเข้าๆออกๆ ในทีมชุดใหญ่
อย่างไรก็ดีในช่วงต้นซีซั่น 2005-06 เขาเริ่มปรับตัวเข้ากับทีมได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนได้รางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำเดือนพฤศจิกายน หลังจากซัดไป 8 ลูก แต่ว่าอดีตแข้งเฟเยนูร์ด เจออาการบาดเจ็บถามหาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2006 จนหายหน้าไปนานหลายเดือนก่อนจะกลับมามีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมนัดชิงยูซีแอล ซึ่งพบกับ บาร์ซ่า แต่ก็ไม่ได้สัมผัสเกมแต่อย่างใด
ระหว่างซีซั่น 2007-08 อองรี ดาวยิงอมตะ ตัดสินใจย้ายไปร่วมทัพบาร์เซโลน่า ส่งผลให้ ฟาน เพอร์ซี่ กลายเป็นดาวยิงตัวหลักของอาร์เซน่อล แต่ช่วงเวลาดังกล่าว อาการบาดเจ็บเป็นปัญหาใหญ่ของเจ้าตัว เป็นเหตุให้ “ฟลายอิ้งดัตช์แมน” ไม่อาจเค้นศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่
ฤดูกาล 2008-09 ถือเป็นช่วงที่ ฟาน เพอร์ซี่ ท็อปฟอร์มที่สุด โดยเขาทำได้ถึง 20 ประตูในทุกถ้วย และนั่นทำให้เขาได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลจากการลง คะแนนของแฟนๆ ผ่านเว็ปไซต์สโมสร ทว่าในขณะที่ฟอร์มกำลังรุ่งๆ อยู่นั้น
ฟาน เพอร์ซี ก็โชคร้ายข้อเท้าหักระหว่างการเล่นให้ทีมชาติ จนทำให้ต้องพักยาวถึง 5 เดือน ก่อนที่จะกลับมาลงสนามได้ในช่วงเดือนเม.ย. 2010 ก่อนที่จะจบซีซั่นด้วยสถิติทำ 9 ประตูจาก 16 นัดในพรีเมียร์ลีก
มาถึงฤดูกาล 2011/12 ฟาน เพอร์ซี่ ถือเป็นปีทองสุดๆ กับ อาร์เซน่อล เมื่อเจ้าตัวสลัดอาการบาดเจ็บลงสนามไปถึง 48 เกม และสอยตาข่ายคู่แข่งไปกว่า 37 ลูก และทำได้อีก 14 แอสซิสต์ พร้อมคว้ารางวัลดาวซัลโว พรีเมียร์ ลีก ด้วยจำนวน 30 ประตู และกวาดรางวัลส่วนตัวมากมายเก็บเข้าบ้านของเขา
แต่ถึงอย่างนั้นในแง่ความสำเร็จสโมสร ฟาน เพอร์ซี่ ล้มเหลวสุดๆ เมื่อ อาร์เซน่อล ไม่สามารถคว้าแชมป์เข้าตู้สโมสรได้นับตั้งแต่คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ในปี 2005 นั่นทำให้เขาเลือกที่จะไม่ต่อสัญญาที่กำลังจะหมดลงกับ อาร์เซน่อล และเป็นที่จับจ้องจากหลายสโมสรในทันที
ฟาน เพอร์ซี่ กับไอ้ปืนใหญ่ถึงทางแยก ภายหลังที่เจ้าตัวกำลังจะย้ายไปสวมยูนิฟอร์ม “ปิศาจแดง” ด้วยค่าตัวราว 24 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1200 ล้านบาท)
และเพียงฤดูกาลแรก ศูนย์หน้าดัตช์วัยย่าง 30 กระซวกประตูเป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะเป็นทีมเล็กทีมใหญ่โดนหมด โดยเฉพาะ อาร์เซน่อล ที่โดนแบบไป-กลับเลยทีเดียว จนพาปีศาจแดงคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก สมัยที่ 20 ของสโมสร (30 ประตู) เป็นการส่งท้าย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ดึงเข้ามาร่วมทีม
แฟนบอลปิศาจแดงต่างโหวตให้โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ได้รับรางวัล Sir Matt Busby Player of the year สำหรับฤดูกาล 2012/2013 และเขาก็มีชื่อติดอยู่ใน 10 รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งยุโรปประจำฤดูกาล 2012/2013
เมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด เข้าสู่ยุคสืบทอดกุนซือ ฟาน เพอร์ซี่ ก็ยังสามารถทำประตูได้เรื่อยๆ เพียงแต่ฟอร์มโดยรวมของทีมนั้นถดถอยลงเรื่อยๆ แถมด้วยวัยที่โรยราทำให้เขาตัดสินใจย้ายออกจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไปเล่นให้กับยอดทีมในลีกตุรกีอย่าง เฟเนร์บาห์เช่ ในปี 2015 ซึ่งเจ้าตัวใช้เวลา 2 ฤดูกาลกับที่นั่น ยิงไป 16 ประตู จากการลงเล่น 87 นัด รวมทุกรายการ
ก่อนจะตัดสินใจย้ายกลับไปเล่น เฟเยนูร์ด อีกครั้งในช่วงบั้นปลายอาชีพ และเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ฟาน เพอร์ซี่ ในวัย 35 ปี ทำการประกาศแขวนสตั๊ดหลังจบฤดูกาล 2018/19 ยุติการโลดแล่นบนเส้นทางลูกหนังกว่า 20 ปีของตัวเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก :: sport.mthai
อ่านคอลัมน์เพิ่มเติม :: ดูบอลรวย